UAE หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ทำการทดลอง วัคซีนโควิด สองชนิด ได้แก่ วัคซีนจากประเทศรัสเซียและจีน เมื่อวันที่ 7 มกราคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ได้เริ่มทดสอบวัคซีนโควิด สปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V) เฟสที่ 3 ซึ่งเป็นการทดลองกับอาสาสมัครในวงกว้าง โดยการทดลองครั้งนี้มีอาสาสมัครเข้าร่วมมากกว่า 500 คน
ซึ่งผู้เข้าร่วมการทดลองต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีและไม่เคยมีประวัติป่วยเป็นโรคโควิด-19 มาก่อน
โดยอาสาสมัครจะได้รับโดสวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นจำนวน 2 โดส โดยทั้ง 2 โดยมีระยะเวลาห่างกัน 20 วัน นอกจากการทดลองวัคซีน สปุตนิก ไฟว์ แล้ว ทาง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังได้ทำการทดลองวัคซีน ซิโนแวค ของจีนในเฟส 3 อีกด้วย
โดยทางการได้ทำการอนุมัติให้ประชาชนที่ต้องการวัคซีนสามารถเข้าฉีดวัคซีนได้โดยไม่มีค่าบริการ อย่างไรก็ตามทางการตั้งเป้าจะให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนก่อน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 218,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วเกือบ 700 ศพ ซึ่งทางการตั้งเป้าว่าประชาชนมากกว่าร้อยละ 50 จะได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ก่อนช่วง 3 เดือนแรกของปี
ยอดตาย จากเหตุ บุกสภาสหรัฐฯ ปรับขึ้นจาก 1 ศพ เป็น 4 ศพ พร้อมรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ชุมนุมแล้ว 52 ราย
เมื่อวันที่ 7 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ได้เปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุ ผู้สนับสนุนทรัมป์ติดอาวุธบุกสภา ขยับเพิ่มขึ้นจาก 1 ศพเป็น 4 ศพ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าผู้เสียชีวิตตายจาก “ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์” และระบุว่าไม่มีความเกี่ยข้องกัน
นอกจากนี้ทางการยังได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของหญิงที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุความรุนแรงครั้งนี้ ว่าผู้ตายเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมที่พยายามบุกรุกเข้าไปในที่ประชุม ยืนยันคะแนนโหวตของคณะผู้เลือกตั้ง เพื่อยืนยันว่า โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกลุ่มผู้ชุมนุมเผชิญหน้ากัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ยิงใส่ผู้ชุมนุม ก่อนโดนหญิงคนดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยชื่อของผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามสื่อหลายสำนักสามารถระบุตัวตนของผู้ตาย พร้อมระบุว่าเป็นทหารผ่านศึกมาก่อน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ชุมนุมแล้ว 52 ราย โดยในจำนวนดังกล่าวมี 47 รายถูกจับกุมในข้อหาละเมิดคำสั่งเคอร์ฟิว
Twitch แบนอิโมต PogChamp หลังจากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุ บุกสภาสหรัฐ
Twitch ได้ทำการแบน Emote PogChamp หลังจากที่ผู้ที่เป็นต้นแบบได้ทำการปลุกระดม หลังจากมีผุ้เสียชีวิตในเหตุการณ์ บุกสภาสหรัฐ เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ของบ้านเรา
เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (ตามเวลาบ้านเรา) ที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์สำคัญครั้งใหญ่ก็คือการ บุกสภาสหรัฐ โดยบรรดากลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายขวา และผู้เลื่อมใสในตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Trumpism) เพื่อทำการกดดันให้รัฐสภานั้นยกเลิกการรับรองผลการเลือกตั้งในปีที่ผ่าน ซึ่งนาย โจ ไบเดน ได้คว้าชัยมาได้อย่างเฉียวเฉียด รวมไปถึงชัยชนะล่าสุดที่มลรัฐจอร์เจียที่ส่งผลให้เสียงในสภานั้นเอื้อให้ทางพรรคเดโมแครต ของไบเดนอีกด้วย
ในระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าวได้มี ผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยเป็นผู้หญิง ผู้ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกที่ไปเข้าร่วมการจราจล บุกสภาสหรัฐ ครั้งด้วย ซึ่งก็ทำให้มีเสียงตอบรับที่หลากหลายกันไป หนึ่งในนั้นก็คือ Ryan “Gootecks” Gutierrez ผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการเกมส์ต่อสู้ และต้นแบบของ Emote ที่ได้รับความนิยมอย่าง PogChamp ต้องโดนแบนจากการใช้งานบน Twitch ไป
เนื่องด้วย Gutierrez นั้นได้แสดงความเห็นในเชิงปลุกปั่น ปลุกระดม ให้มีการจราจลต่อเนื่องจากเหตุการณ์เสียชีวิตดังกล่าว อีกทั้งยังได้มีการกล่าวถึงผู้เสียชีวิตว่าเป็น #MAGAMartyr และเรียกการเสียชีวิตนี้ว่าเป็นการ “ประหารชีวิต” โดยผู้บังคับใช้กฎหมาย
ทาง Twitch ได้มีการตอบสนองจากการออกมาแสดงความเห็นดังกล่าวด้วยการห้ามการใช้งานตัว Emote ดังกล่าวไป และได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้โดยคร่าว ๆ ว่า “พวกเราได้ตัดสินใจทำการถอนเอาอีโมต PogChamp ออกไป เนื่องด้วยผู้เป็นต้นแบบนั้นได้มีการปลุกระดมให้มีการใช้ความรุนแรงต่อเนื่อง ภายหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่รัฐสภาวันนี้”
“พวกเราต้องการสาร และการใช้งานของตัว Pog ยังคงอยู่ – เนื่องด้วยมันมีความหมายมากไปกว่าตัวบุคคลที่เป็นต้นแบบ และตัวรูปมันเอง – มันถือว่าเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรม Twitch ไปแล้ว แต่ทว่า พวกเราไม่สามารถปล่อยให้มีการใช้งานรูปภาพนี้ต่อไปได้ พวกเราจะพยายามออกแบบหาอีโมตใหม่มาทดแทนสำหรับช่วงเวลาที่น่าตื่นใจ (Hype) บนช่องทาง Twitch ต่อไป”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป